หลุยส์ เอ็นริเก้ พา PSG ผงาดแชมป์ UCL สมัยแรก ตอกย้ำสถานะกุนซือระดับตำนาน

ชัยชนะของปารีส แซงต์-แชร์กแมง (PSG) เหนืออินเตอร์ มิลาน 5-0 ในนัดชิงยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ที่สนามอัลลิอันซ์ อารีนา มิวนิก ไม่เพียงทำให้สโมสรคว้าแชมป์ยุโรปสมัยแรก แต่ยังยกระดับหลุยส์ เอ็นริเก้ ขึ้นสู่ทำเนียบกุนซือผู้ยิ่งใหญ่ตลอดกาล
ก่อนเกม เอ็นริเก้ดูสงบนิ่งและมั่นใจ ขณะเดินตรวจสนามร่วมกับทีมงาน โดยมี PSG อุลตร้าส์ส่งเสียงเชียร์อย่างหนักหน่วง เขารู้สึกว่าโชคชะตาอยู่ข้างทีม เพราะทุกครั้งที่มิวนิกจัดนัดชิงแชมเปียนส์ลีก จะมีแชมป์หน้าใหม่เกิดขึ้นเสมอ
เอ็นริเก้ยังเชื่อในพลังใจส่วนตัว เขาเคยเขียนถึงลูกสาวผู้ล่วงลับ “ซาน่า” ว่า “เธอคือดวงดาวนำทางครอบครัวเรา” หลังเธอเสียชีวิตจากมะเร็งกระดูกในวัยเพียง 9 ขวบ สิ่งนี้เป็นแรงผลักดันที่ทำให้เขามุ่งมั่น
ในสนาม PSG ครองเกมได้เหนือชั้น ตามแผนที่เอ็นริเก้วางไว้ ทั้งจังหวะเคลื่อนที่ กดดันคู่แข่ง และความยืดหยุ่นในการยืนตำแหน่ง ทำให้ขึ้นนำ 2-0 ตั้งแต่ 20 นาทีแรก ก่อนขยี้อินเตอร์ด้วยอีก 3 ประตู โดยลูกสุดท้ายจากเซนนี่ มายูลู ดาวรุ่งวัย 19 ปีที่เพิ่งถูกส่งลงสนาม กลายเป็นสัญลักษณ์แห่ง “ทีมเวิร์ก” ที่เขาสร้างขึ้นมา
การคว้าแชมป์ครั้งนี้ ทำให้เอ็นริเก้คว้าทริปเปิลแชมป์เป็นครั้งที่สองในอาชีพ (ลีก, ถ้วยยุโรป, ถ้วยในประเทศ) หลังเคยทำได้กับบาร์เซโลนาในปี 2014-15 มีเพียงเป๊ป กวาร์ดิโอลา เท่านั้นที่เคยทำได้เช่นกัน
ต่างจากช่วงที่คุมบาร์เซโลนา ซึ่งมีเมสซี, เนย์มาร์, ซัวเรซ และนักเตะระดับโลกมากมาย PSG ภายใต้เอ็นริเก้ถูกปั้นใหม่ด้วยแข้งอย่าง วิลเลียน ปาโช่, ชูเอา เนเวส, เดซีเร่ ดูเอ้ และ ควารัตส์เคเลีย รวมมูลค่า 200 ล้านปอนด์ แม้ยังอิงงบจากเจ้าของทีมกาตาร์ แต่ทีมชุดนี้เน้นระบบมากกว่าซุปตาร์
อุสมาน เดมเบเล่ คืออีกหนึ่งผู้เล่นที่ก้าวขึ้นมาโดดเด่น โดยยิงไป 33 ประตูในฤดูกาลนี้ แม้ไม่ได้ยิงในนัดชิงแต่ทำ 2 แอสซิสต์ และช่วยเกมรับอย่างโดดเด่น จนเอ็นริเก้กล่าวว่า “ผมอยากมอบบัลลงดอร์ให้เขา แค่ดูเกมรับเขาก็พอแล้ว”
ฤดูกาลนี้ของ PSG คลิกเข้าที่ตั้งแต่พลิกชนะแมนฯ ซิตี้ 4-2 ในรอบแบ่งกลุ่ม และไล่ล้มทีมแกร่งอย่างลิเวอร์พูล, แอสตัน วิลลา และอาร์เซนอล จนมาถึงจุดสูงสุดในมิวนิก
หลังจบเกม แฟนบอล PSG ชูภาพทีฟโฟ่ของเอ็นริเก้และลูกสาวในชุด PSG ปักธงชัยชนะลงบนสนาม คล้ายภาพที่เคยทำกับบาร์ซ่าในปี 2015 ภาพที่เต็มไปด้วยพลังและอารมณ์
ซาน่าคงภูมิใจในตัวคุณพ่อของเธอที่สุดแล้ว

